วิธี ขับ รถ ประหยัด น้ํา มัน

  1. วิธี ขับ รถ ประหยัด น้ํา น้ํามัน ro
  2. ขับรถประหยัดน้ํามัน
  3. วิธีขับรถแบบประหยัดน้ํามัน

หลีกเลี่ยงการกระฉากเครื่อง การเร่งเครื่องจนมิดนั้น จะทำให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานมากขึ้นในการเร่งเครื่อง เช่น ขณะขับรถยนต์เกียร์ธรรมดา คุณเร่งเครื่องเพราะขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์ ลากเกียร์เอาไว้อีกสักหน่อย ทำให้มีความสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง แต่หากเป็นรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ระบบเกียร์จะปรับเปลี่ยนอย่างเหมาะสมไปตามความเร็วที่คุณใช้ ซึ่งแน่นอนว่าเกียร์อัตโนมัติทำได้ดีกว่าการขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาของคนแน่นอน แต่แม้ว่าระบบเกียร์จะดีอย่างไร การเร่งเครื่องพร่ำเพรื่อก็ยังเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ดี ดังนั้น ขับรถให้นิ่มนวลโดยใช้ความเร็วสม่ำเสมอดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นระบบเกียร์แบบใดก็ตาม 4. ลดน้ำหนักบนรถ ลดการซดน้ำมัน รถยนต์ต้องใช้พลังงานมากขึ้น ในการขับเคลื่อนไปข้างหน้าในขณะที่บรรทุกน้ำหนักมากมาก ลองนึกถึงการเดินดูสิ การเดินโดยที่คุณถือของพะรุงพะรังมากมายนั้น ย่อมใช้พลังงานมากกว่าการเดินตัวเปล่าใช่ไหมล่ะ ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณลดภาระของรถยนต์ลงด้วยการทำความสะอาดรถ นำสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไปจากรถเพื่อให้น้ำหนักของรถนั้นเบาลง ช่วยให้ใช้พลังงานน้อยลงและประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นนั่นเอง และที่สำคัญ ยังช่วยให้รถของคุณดูสะอาดอยู่เสมออีกด้วย 5.

วิธี ขับ รถ ประหยัด น้ํา น้ํามัน ro

โดย: | May 23, 2017 | หมวดหมู่: Car care, driving tips ทุกวันนี้เป็นยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ในขณะที่ฐานเงินเดือนไม่ได้ขยับขึ้นตามค่าครองชีพเลย นั่นทำให้เศรษฐกิจซบเซาเพราะคนใช้จ่ายน้อยลง ประหยัดอะไรได้ก็ต้องประหยัด รวมถึงน้ำมันด้วย เพราะราคาต่อลิตรก็ไม่ใช่ถูก ๆ จึงมี วิธีขับรถประหยัดน้ำมัน มาฝากคุณผู้อ่านกันในวันนี้ 1. วิธีขับรถประหยัดน้ำมัน ต้องเริ่มที่ความเร็ว เป็นเรื่องที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ยิ่งขับรถเร็วมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งใช้พลังงานน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น การขับรถในความเร็วที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงในเรื่องการประหยัดน้ำมัน ซึ่งแน่นอนว่าใช้ได้ผลจริง เรื่องความเร็วคงจะไม่มีผลมากนักหากคุณขับรถในเมืองใหญ่ที่มีการจราจรที่ค่อนข้างติดขัด แต่ถ้าหากขับรถทางไกลควรจำกัดความเร็วไม่ให้เกิน 90 กม. /ชั่วโมง เพื่อประหยัดน้ำมัน ประหยัดเงินในกระเป๋านะคะ 2. ตรวจเช็กลมยางเป็นประจำ การขับขี่รถยนต์ด้วยยางรถยนต์ที่มีลมยางอ่อนเกินไป ยิ่งเดินทางไกลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเปลืองน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ควรหมั่นตรวจเช็กลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ การเติมลมยางมากเกินไป อาจจะไม่ส่งผลเรื่องการใช้พลังงานมากนัก แต่อาจจะส่งผลเรื่องความปลอดภัยได้ เพราะยางอาจจะเกิดระเบิดขึ้นระหว่างเดินทางได้นั่นเอง นอกจากนี้ ควรมองหาร่องรอยของการขูด รูรั่ว รอยบาด รอยแตกในยาง รวมถึงตรวจสอบวันที่ผลิตของยางด้วย หากพบว่ายางของคุณมีอายุเกินกว่า 6 ปี คุณจำเป็นจะต้องเปลี่ยนยางใหม่ก่อนที่จะใช้งานยางในระยะไกล 3.

ช่วงที่ราคาน้ำมันกำลังปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆเช่นนี้ ค่ายรถหลายๆค่ายออกมาผลิตรถที่ประหยัดน้ำมันในการใช้งานมากขึ้น แต่หากไม่รู้วิธีการขับรถอย่างถูกต้องก็ถือเป็นการไม่ใช้เชื้อเพลิงให้คุ้มค่าที่สุด การขับขี่ที่ดีนั้นนอกจากจะต้องขับรถด้วยความไม่ประมาท เคารพกฎจราจรแล้ว ยังต้องขับให้ประหยัดเชื้อเพลิงด้วย เพราะนอกจากจะเป็นการเซฟค่าใช้จ่ายที่จะหมดไปกับค่าเชื้อเพลิงแล้ว ยังเป็นการช่วยรถการใช้พลังงานของโลกใบนี้ และลดการปล่อยมูลภาวะจากการเผาผลาญเชื้อเพลิงด้วย 1. การสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งแรกในรอบวันหลังจากดับเครื่องมาเป็นเวลานานหลายชั่วโมงนั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอุ่นเครื่องยนต์ในขณะที่รถจอดอยู่กับที่ เพราะเพียงแค่เคลื่อนรถอย่างช้าๆ 1-2 กิโลเมตร ก็ถือเป็นการอุ่นเครื่องไปแล้วในตัว โดยการติดเครื่องอยู่กับที่ 2 นาทีนั้น ก็สิ้นเปลืองน้ำมันไปประมาณ 40 มิลลิลิตร และหลังจากไฟเตือนต่างๆบนหน้าปัดดับลงแล้ว ก็สามารถที่จะเคลื่อนรถออกได้เลยอย่างช้าๆ ค่อยๆเร่งเครื่องยนต์ทีละน้อย ไม่ต้องเร่งเครื่องยนต์ให้รอบสูงเพื่อจะให้เครื่องยนต์ร้อนเร็วขึ้น 2. การใช้งานเบรกมีผลต่อการกินน้ำมัน ทุกๆครั้งที่เหยียบเบรก จะทำให้ความเร็วของรถลดลงไป และการแตะคันเร่งเพื่อจะเร่งเครื่องยนต์ต่อนั้น ก็จำเป็นต้องมองไปข้างหน้าด้วย การปล่อยคันเร่งให้เร็วขึ้นเพื่อปล่อยให้รถไหล จะประหยัดน้ำมันได้มากกว่าการขับขี่ในลักษณะที่เหยียบเบรกเมื่อกระชั้นชิดแล้ว และเติมขึ้นเร่งเพื่อเร่งเครื่องไปต่อ 3.

เดินทางให้ถูกเวลา ใครจะคิดว่าแค่การเลือกเวลาออกจากบ้านจะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้ แต่มันทำได้จริง เพราะในวันธรรมดาช่วงเช้าและเย็นเป็นช่วงที่มีรถติดมหาศาล ถือเป็นช่วง Rush Hours การเดินทางในช่วงเวลานี้จะทำให้คุณไปติดแหงกอยู่บนท้องถนน ซึ่งยิ่งติดคาอยู่บนถนนนานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสิ้นเปลืองน้ำมันมากเท่านั้น ดังนั้นตื่นเช้าขึ้นอีกสักนิด ออกจากบ้านก่อนเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลา Rush Hours ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้ นอกจากนี้ ในการเดินทางไกล การขับรถในเวลากลางคืน ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่าการขับรถในเวลากลางวันที่มีรถเยอะกว่า การจราจรพลุกพล่านมากกว่า 9. วางแผนการเดินทาง คุณรู้ไหม?

ขับรถประหยัดน้ํามัน

วิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมัน 10 เทคนิคช่วยประหยัดน้ำมันรถ บรรเทาค่าใช้จ่ายแถมเป็นการถนอมรถและเครื่องยนต์ไปในตัว ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก แถมราคาน้ำมันวันนี้ยังคงขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา จะทำอะไรก็ต้องนึกถึงเงินในกระเป๋ากันสักนิดนึง ซึ่งสิ่งง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ทันทีคือการใช้ วิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมัน นอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเป็นการถนอมรถยนต์ไปในตัวด้วย วันนี้กระปุกจึงได้นำ 10 วิธีประหยัดน้ำมันรถ มาให้ทุกคนได้ลองอ่านและนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันกันครับ... 1. ควบคุมความเร็วให้เหมาะสม และสม่ำเสมอ ยิ่งขับเร็วเท่าไหร่ รถยนต์ยิ่งกินน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น! นี่เป็นหลักพื้นฐานที่ทุกคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว โดยปกติรถยนต์ส่วนใหญ่จะประหยัดที่สุดเมื่อวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 50-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากวิ่งเกินโซนความเร็วนี้ไปจะผลาญเชื้อเพลิงมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้การรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอตลอดเส้นทาง จะช่วยเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นและลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงได้ด้วยเช่นกัน 2. ออกตัวเบา ๆ เร่งเครื่องเฉพาะที่จำเป็น ท่องไว้ให้ขึ้นใจเลยว่า... ห้ามออกตัวแบบกระชาก หรือพุ่งด้วยความเร็วแบบรถแข่งเด็ดขาด เพราะนอกจากจะสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุแล้ว ยังทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ สึกหรอไวขึ้นอีกด้วย รวมถึงการเร่งเครื่องยนต์เพื่อแซงรถทุกคันที่ขวางหน้า ถ้าต้องการประหยัดน้ำมันก็แนะนำให้เลิกนิสัยแบบนี้ซะ เอาไว้ใช้ในยามจำเป็นก็พอ 3.

ตรวจเช็คแรงดันลมยาง ยางที่มีลมอ่อนเกินไปจะทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น และอายุการใช้งานของยางก็จะสั้น แต่ขณะเดียวกันนั้นยางที่ลมแข็งเกินไป ก็ทำให้การยึดเกาะถนนน้อยลง และอายุการใช้งานก็สั้นลงเช่นกัน ดังนั้นควรเช็คระดับแรงดันลมยางให้เหมาะสมสำหรับรถแต่ละรุ่น เพื่อให้ใช้รถได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด และประหยัดน้ำมันอีกด้วย 8. ตรวจเช็คเครื่องปรับอากาศ ปริมาณน้ำยาทำความเย็น ความสกปรกของคอยล์ร้อนและคอยล์เย็น ไส้กรองอากาศ และอื่นๆ ให้ระบบการทำงานนั้นทำงานเต็มประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา และปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมในการใช้งาน เพราะถ้าปรับอุณหภูมิต่ำเกินไป คอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะทำงานหนักขึ้น เป็นภาระของเครื่องยนต์มากขึ้น ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นเช่นกัน 9. ดูแลเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ คอยตรวจเช็คและเปลี่ยนอะไหล่ต่างๆตามที่ผู้ผลิตกำหนด คอยตรวจเช็คอาการผิดปกติต่างๆของเครื่องยนต์ ที่อาจจะส่งผลให้การใช้งานของเครื่องยนต์มีอายุการใช้งานสั้นลงแล้ว ก็ยังส่งผลให้เครื่องยนต์กินน้ำมันด้วยเช่นกัน เช่น น้ำมันเครื่องหมดสภาพ ขาดคุณสมบัติการหล่อลื่น, หัวเทียนเสื่อมสภาพ ทำให้เชื้อเพลิงเผาไหม้ไม่สมบูรณ์, ปรับตั้งการจุดระเบิดไม่ถูกต้อง ซึ่งทำให้การเผาไหม้เชื้อเพลิงนั้นไม่เต็มประสิทธิภาพ เป็นต้น 10.

  1. ซื้อ ขาย เรือ หัว โท ง กระบี่
  2. แฟรนไชส์ Monsters ไอติมผัด อีกหนึ่งธุรกิจน่าลงทุน คืนทุกใน 1 เดือน
  3. “คุณเป็นคนธาตุอะไร???” – ซินแสหวาง
  4. Thermage 1 200 shot ราคา
  5. ตั้ง ค่า bios gigabyte boot usb mac
  6. โหลด mod the sims 4 ภาษา ไทย free
  7. Honda crf 250 โม ตาด 2017 honda
  8. 14 วิธี ขับรถประหยัดน้ำมัน » รถนิยม

วิธีขับรถแบบประหยัดน้ํามัน

วิธีขับรถแบบประหยัดน้ํามัน วิธีขับรถให้ประหยัดน้ํามัน

หลีกเลี่ยงเส้นทางที่การจราจรติดขัด ข้อนี้สำคัญมาก! เพราะรถติดไม่ใช่แคเปลืองน้ำมันฟรี ๆ เพียงอย่างเดียว ยังทำให้เราเสียเวลา และเสียสุขภาพจิตตามไปด้วย ดังนั้นควรตรวจสอบเส้นทางให้ดีก่อนออกจากบ้าน ปัจจุบันง่ายขึ้นมากแค่เปิดสมาร์ตโฟนก็สามารถเช็กได้แล้วว่าทางติดหรือสะดวกที่สุด 7. เช็กลมยาง การปล่อยให้ลมยางอ่อนจะทำให้เกิดแรงเสียดสีมากขึ้น เครื่องยนต์ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น จึงสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติ ฉะนั้นหมั่นตรวจสอบลมยางรถยนต์อยู่เสมอ และควรเติมลมให้ได้ตามที่มาตรฐานกำหนดทั้งล้อหน้าและล้อหลัง 8. อย่าบรรทุกของหนัก การบรรทุกน้ำหนักส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นตามไปด้วย แน่นอนว่าซดน้ำมันมากกว่าเดิม ทางที่ดีของอะไรที่ไม่จำเป็นก็โละ ๆ ออกไปจากรถบ้าง รถจะได้ไม่ทำงานหนักจนเสียเร็วและเป็นการประหยัดน้ำมันไปในตัวด้วย 9. ไม่ขนของบนไว้บนหลังคา หลายคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว มักนิยมการติดตั้งแร็คหลังคารถ (ที่บรรทุกของบนหลังคา) แต่สิ่งนี้อาจทำให้คุณเปลืองเชิ้อเพลิงขึ้นอย่างมาก เพราะหลักอากาศพลศาสตร์ขอรถจะเสียไป มีแรงต้านมากขึ้น กินน้ำมันเยอะพอสมควร แนะนำว่าเมื่อไม่มีความจำเป็นก็ควรถอดออกจะดีกว่า 10. เปิดแอร์เย็นเกินไป รู้หรือไม่ว่าการทำงานของเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ มันดึงพลังงานเชื้อเพลิงจากน้ำมันที่คุณไปใช้มากถึง 10 - 20 เปอร์เซนต์ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าให้ปิดแอร์แล้วเปิดกระจกขับรถนะครับ เพียงแค่แนะนำให้ตั้งในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์และภาระของเครื่องยนต์ เพียงแค่นี้ค่าน้ำมันรถของคุณก็จะถูกลงไปอีกเยอะแล้ว แถมยังเป็นการถนอมรถให้คงสภาพเหมือนใหม่ได้นานขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้น อย่าลืมเอาเคล็ดลับประหยัดน้ำมันเหล่านี้ไปใช้กันดูนะครับ ข้อมูลจาก:, เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ขณะขับบนถนนโล่งๆ ไม่ควรเร่งจนระยะชิดคันหน้าแล้วเบรก ควรรักษาระดับความเร็วให้ใกล้เคียงรถที่อยู่เลนเดียวกัน ช้าหรือเร็วตามๆ กันไป และมองสถานการณ์ล่วงหน้าอีกซัก 4-5 ช่วงคันรถ เมื่อเห็นว่ารถที่อยู่ไกลๆ เบรก เราก็ยกคันเร่งจนความเร็วลดระดับลงมา คล้ายชะลอความเร็วก่อนรถที่อยู่หน้าเราจะเบรก จังหวะนั้นค่อยๆ ปล่อยรถให้ไหลตามแรงเฉื่อย และอย่าลืมใช้ความเร็วตามกฏหมายกำหนดด้วยนะครับ การขับรถวิธีนี้ ช่วยประหยัดประมาณ 1-2% 8. ไม่เปลี่ยนเลน หรือขับแทรกบ่อยๆ เพราะจังหวะนั้นต้องใช้กำลังเครื่องเพื่อเร่งความเร็วให้เท่ารถในเลนที่เราขับไปแทรก หากจำเป็นควรเว้นระยะห่างรถข้างหน้าไว้มากหน่อย เพื่อมีระยะปล่อยไหล แล้วพอได้จังหวะเปลี่ยนเลนก็เร่งเพียงเบาๆ ความเร็วจะไม่ต่างกันมาก ทำให้ไม่ต้องใช้กำลังเครื่องมากเกินความจำเป็น จะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้ประมาณ 1-2% 9. ศึกษาเส้นทางลัด-เลี่ยงรถติด ฟังรายงานจราจร และเมื่อจอดรถทำธุระก็ดับเครื่องทุกครั้ง เช่น เติมน้ำมัน, ซื้อกับข้าว, จอดแต่งหน้าในห้างหรือสถานที่เที่ยวต่างๆ ฯลฯ ประหยัดประมาณ 5-10% 10. หลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักอันเป็นภาระของเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น เช่น ล้อโตๆ เครื่องเสียงชุดใหญ่ ชุดแต่งบางประเภท รวมถึงสัมภาระไม่จำเป็น ช่วยประหยัดประมาณ 3-5% ทั้ง 10 วิธีเบื้องต้นนี้ เป็นเพียงตัวช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อฝึกฝนบ่อยๆ นอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว ยังเป็นการรักษาอุปกรณ์ ชิ้นส่วนอื่นๆ ของรถยนต์ให้สึกหรอน้อยลง และทำให้เรามีนิสัยการขับรถที่ดี ใจเย็นลงอีกด้วยนะครับ แม้ว่าแต่ละข้อจะได้อย่างละ 1% หรือ 5% แต่ถ้าทำได้มากกว่า 5 ข้อขึ้นไป รวมแล้วก็ประหยัดได้มากกว่า 5% ไม่จำเป็นต้องเสียเงินสามถึงสี่พันบาทไปกับการติดตั้งอุปกรณ์ที่โฆษณาที่บอกว่าประหยัดน้ำมันได้ถึง 5-10% อีกด้วยครับ

10 วิธี ขับรถอย่างไรให้ประหยัด รับสถานการณ์น้ำมันแพง การเตรียมความพร้อม เพื่อรับกับสถานการณ์น้ำมันที่แพงขึ้นในปัจจุบันมีอยู่หลายวิธี นอกจากการหมั่นตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ ลมยาง หรืออื่นๆ แล้ว ยังมีวิธีง่ายๆ ที่เราควรฝึกให้เป็นนิสัยทุกครั้งในการขับรถ เพื่อเป็นแนวทางให้ประหยัดน้ำมันกับเงินในกระเป๋าของเราครับ 10 วิธีการขับรถต่อไปนี้ เป็นเพียงเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ แต่หากปฏิบัติได้ ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ไม่มากก็น้อยนะครับ (ความประหยัดที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์มาจากการประมาณนะครับ) 1. เริ่มจากการสตาร์ตเครื่องรถยนต์ ไม่ต้องรออุ่นเครื่องนานเกินไป เพราะเป็นการเปลืองโดยใช่เหตุ วอร์มซักครึ่งนาทีก็ค่อยๆ ขับออกไปอย่างช้าๆ รถรุ่นใหม่ระบบหล่อลื่นดีกว่าสมัยก่อนแล้วครับ วิธีนี้ประหยัดได้ประมาณ 1-2% 2. ออกรถ หรือเร่งนิ่มๆ ออกแรงบนคันเร่งแผ่วๆ เมื่อรถเคลื่อนที่สักระยะหนึ่งก็ค่อยๆ ค้างระดับนั้นไว้ ให้เครื่องยนต์เปลี่ยนจังหวะเกียร์เองไปเรื่อย หรือง่ายๆ คือ เร่งไม่ควรเกิน 2, 000-2, 500 รอบ/นาที (ยกเว้นหากมีความจำเป็นต้องใช้อัตราเร่งมากๆ) วิธีนี้ประยุกต์ใช้ได้ทั้งเกียร์อัตโนมัติและธรรมดา ช่วยประหยัดได้ประมาณ 2-5% 3.

Monday, 25 October 2021